หน้าที่
- เป็นผู้ควบคุมรับผิดชอบอากาศยานรวมถึงความปลอดภัย
ของผู้โดยสาร ลูกเรือ และสินค้า ระหว่างสถานีต้นทางจนถึงปลายทาง
โดยนักบินจะทำการ Walk Around ก่อนทำการบิน เพื่อตรวจสอบ
อุปกรณ์ต่าง ๆ ว่าอยู่ในสภาพที่เหมาะสมสำหรับการทำการบินหรือไม่ เช่น ตรวจสอบท่อรับอากาศ (Pilot Tubes)
ท่อวัดอุณหภูมิ (TAT Probe) ช่องวัดความดัน (Static Ports) เสาอากาศที่ใช้รับ – ส่งสัญญาณวิทยุ ช่องประตูต่าง ๆ ตั้งแต่ช่องประตูที่วิศวกรใช้ในการเข้าไปตรวจสอบเครื่องบิน หรือประตูห้องเก็บสัมภาระ ตลอดจนการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์
- ในการทำการบินในแต่ละเที่ยวบินนั้น จะมีการแบ่งหน้าที่การทำงานกันอย่างชัดเจนระหว่างกัปตัน (First Officer – F/O) และนักบินที่ 2 PF (Pilot Flying) กัปตันจะเป็นนักบินผู้ทำหน้าที่รับผิดชอบในการบังคับและควบคุมเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นการบังคับเครื่องบินบนทางขับ (Taxiing) การควบคุมเส้นทางการบินและความเร็ว (Flight path and Airspeed Control) ควบคุมการกางล้อ/แฟลบ (Aircraft Configurations) และการนำทาง (Navigation) PM (Pilot Monitoring) หรือ PNF (Pilot not Flying) จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการอ่านรายการเชคลิสต์ (Checklist Reading) การติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ การปฏิบัติตามสิ่งที่ได้รับการร้องขอมาจาก PF การเฝ้าดูและตรวจสอบเส้นทางการบิน ความเร็ว การนำทาง และข้อมูลของระบบต่าง ๆ ในเครื่องบิน กัปตัน หรือนักบินที่ 2 สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็น PF หรือ PM อย่างใดอย่างหนึ่งได้ตลอดเวลา โดยกัปตันจะทำหน้าที่เป็น PIC หรือ Pilot in Command ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่ง PF หรือ PM ก็ตาม ในระหว่างที่เครื่องบินจอดอยู่ที่สนามบินเพื่อรับผู้โดยสารขึ้นมา
- นักบินมีหน้าที่เตรียมเครื่องบินให้พร้อมก่อนที่ถึงเวลาออกเดินทาง (Departure Time) ประมาณ 15-20 นาที
ในการตั้งค่า กรอกข้อมูล ตรวจสอบ ทดสอบระบบต่าง ๆ ของเครื่องบินทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ระบบนำทาง (Navigation System) ระบบไฟฟ้า (Electrical System) ระบบเชื้อเพลิง (Fuel System) ระบบป้องกันไฟไหม้ของเครื่องยนต์และ APU (Fire Protection System) ระบบปรับความดันและปรับอากาศ (Air conditioning and Pressurization System) ซึ่งจะอยู่ที่แผงอุปกรณ์ที่อยู่เหนือหัว (Overhead Panels) ตั้งค่าระบบควบคุมการบินที่อยู่บนแผงด้านหน้า (MCP/FCU) ระบบแสดงผลของนักบิน (EFIS) ตลอดจนระบบวิทยุ
- นักบินต้องทำการติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ เพื่อขอรับคำอนุมัติที่จะใช้แผนการบินในการทำการบิน (Flight Plan ATC Clearance) ตลอดจนการตรวจสอบข่าวอากาศ ข้อมูลโดยทั่วไปของสนามบิน
- นักบินักบินจะต้องทำการบรรยายสรุป การวิ่งขึ้น (Takeoff Briefing) ความสูง ทิศทาง สภาพอากาศ สภาพของทางวิ่ง วางแผนในกรณีเกิดเหตุเครื่องยนต์ขัดข้อง ก่อนที่จะทำการถอยออกจากจุดจอด (Push back) และทำการติดเครื่องยนต์
นจะต้องทำการบรรยายสรุป การวิ่งขึ้น (Takeoff Briefing) ความสูง ทิศทาง สภาพอากาศ สภาพของทางวิ่ง วางแผนในกรณีเกิดเหตุเครื่องยนต์ขัดข้อง ก่อนที่จะทำการถอยออกจากจุดจอด (Push back) และติดเครื่องยนต์
คุณสมบัติ
- มีใบสำคัญแพทย์ Medical Certificate class I ที่ออกให้โดยสถาบันเวชศาสตร์การบิน
- ผ่านการสอบภาษาอังกฤษ (English Language Proficiency Level 4) เป็นอย่างน้อย
- มีใบอนุญาตพาณิชย์ตรี Commercial Pilot License (CPL)
- มีความรู้เกี่ยวกับวิชาการบินและกฎหมายการบินทั่ว ๆ ไป
- ประสบการณ์ชั่วโมงบิน มีชั่วโมงบินรวมไม่ต่ำกว่า 200 ชั่วโมง (ประเภท Fixed-wing เท่านั้น)
- จบหลักสูตรการบินที่กรมการบินพาณิชย์เห็นชอบ
- บุคคลที่มีใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรี
- ผ่านการคัดเลือกของบริษัทฯ
ผู้จ้างงาน
- บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), บางกอกแอร์เวย์ส, THAI AIRASIA, NOK AIR และสายการบินอื่น ๆ
รายได้โดยประมาณ
- มากกว่า 100,000 บาท ต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับประสบการณ์)